ทำไมเด็ก…ถึงเป็นเบาหวานได้
“เบาหวาน” เป็นความผิดปกติในการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตหรือเปลี่ยนสารอาหารเป็นน้ำตาล เพราะร่างกายหรือส่วนที่เรียกว่า ตับอ่อนไม่สามารถผลิตหรือสร้างฮอร์โมนอินซูลินได้น้อยกว่าปกติ ทำให้ร่างกายไม่สามารถนำน้ำตาลไปใช้งานยังส่วนต่างๆ ของเซลล์เพื่อเอาไปเผาผลาญได้ ทำให้ภาวะน้ำตาลในเลือดสูง ร่างกายจึงต้องขับน้ำตาลออกทางปัสสาวะ สำหรับเด็กที่เป็นโรคเบาหวานร่างกายจะผอมลง น้ำหนักลด ซึ่งเบาหวานที่พบในเด็กนั้นมีด้วยกัน 2 ชนิด คือ
1.ชนิดที่เกิดจากพันธุกรรม เกิดจากร่างกายจะต่อต้านเซลล์ตับอ่อนหรือสร้างภูมิต้านทานตนเองมาทำลายเบต้าเซลล์ของตับอ่อน ส่งผลให้ตับอ่อนไม่สามารถผลิตอินซูลินในร่างกายได้ เกิดได้ในเด็กตั้งแต่อายุน้อย ส่วนมากมักไม่อ้วน ประมาณร้อยละ 95% ของผู้ป่วยที่เป็นเบาหวานชนิดที่ 1 เด็กที่มีภาวะนี้จะน้ำหนักลด ปัสสาวะบ่อย หิวน้ำบ่อย ซึ่งมักพบในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี
2.ชนิดที่พฤติกรรมเด็กก่อให้เกิดโรค เป็นปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานชนิดที่ 2 ได้แก่ ภาวะอ้วน ปัจจุบันเนื่องจากสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมการกินที่เปลี่ยนไป เช่น การนิยมรับประทานอาหาร Fast Food ร่วมกับการที่เด็กใช้เวลาไปกับมือถือมากเกินไป เด็กทานอาหารจำพวกแป้งและน้ำตาลมากเกินไป และไม่ได้มีการออกกำลังกาย ทำให้เด็กมีเซลล์ไขมันมาก ซึ่งตัวเซลล์ไขมันนี้แหละที่ทำให้ร่างกายต่อต้านอินซูลิน จนอินซูลินไม่สามารถทำงานได้เป็นปกติ ระดับน้ำตาลในเลือดสูงตาม กลายเป็นโรคเบาหวานในที่สุด ซึ่งเด็กไทยที่เป็นโรคอ้วนและเบาหวานชนิดที่ 2 กันมากขึ้น มักะพบในเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 10 ปี เช่นเดียวกัน
เบาหวานในเด็ก…สังเกตได้อย่างไร
คุณพ่อคุณแม่สามารถเช็กความเสี่ยงของลูกน้อยที่จะเป็นโรคเบาหวานได้จากการสังเกตพฤติกรรมการรับประทานอาหาร อย่างเด็กอ้วนที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูง จะสังเกตได้ว่าช่วงตรงคอจะมีรอยดำและหนา คล้ายกับขี้ไคลซึ่งเป็นอาการที่แสดงให้เห็นว่าร่างกายเริ่มดื้อต่ออินซูลินแล้ว หรือหากลูกปัสสาวะบ่อยและมีมดมาตอม หิวน้ำ กินเยอะ อ่อนเพลียง่าย เมื่อมีแผลจะหายช้า ก็สามารถสันนิษฐานในเบื้องต้นก่อนได้เลยว่า ลูกเรากำลังเป็นโรคเบาหวาน แต่เพื่อความแน่นอน ควรพาไปตรวจเลือดที่โรงพยาบาล เพื่อดูระดับน้ำตาลในเลือดว่าปกติหรือเปล่า ซึ่งถ้าระดับน้ำตาลในเลือดหลังจากอดอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมงแล้ว ยังมากกว่าหรือเท่ากับ 126 มิลลิกรัม/เดซิลิตร ก็ถือว่าเด็กกำลังเป็นโรคเบาหวานแล้ว
เบาหวานในเด็กปล่อยไว้ไม่ดีแน่นอน
เมื่อเราทราบแล้วว่าเด็กกำลังเป็น “เบาหวาน” หรือเริ่มมีระดับน้ำตาลในเลือดสูง อย่าละเลยหรือนิ่งนอนใจไปเพราะโรคนี้เป็น “โรคเรื้อรัง” ตลอดชีวิต ยิ่งถ้าไม่ดูแลและรักษาตอนนี้ในอนาคตก็จะมีโรคอื่นๆ แทรกซ้อนตามมาเหมือนที่ผู้ใหญ่เป็นเบาหวานเช่นกัน ทั้งเบาหวานขึ้นจอตา ปลายประสาทเสื่อม ไตเสื่อม หลอดเลือดตีบง่าย โรคหัวใจ เพราะฉะนั้นการดูแลรักษาโรคเบาหวานในเด็กจะเหมือนในผู้ใหญ่เลยคือ เด็กที่เป็นเบาหวานชนิดที่เกิดจากพันธุกรรมเราอาจจะต้องคอยประคองและรักษาระดับน้ำตาลในเลือดให้อยู่ในระดับปกติอยู่เสมอ โดยอาจจะต้องพึ่งอินซูลิน แต่สำหรับ “เด็กที่เป็นเบาหวาน” ชนิดที่เกิดจากพฤติกรรมการทานอาหาร ก็ต้องเริ่มฝึกให้เด็กปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหาร เริ่มออกกำลังกาย เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวันให้มีการเผาผลาญไขมันในร่างกายให้ออกไปใช้บ้าง เพื่อให้การทำงานของร่างกายเป็นไปอย่างปกติ ระดับน้ำตาลก็จะกลับมาอยู่ในระดับปกติเช่นกัน
References:
https://www.paolohospital.com/th-th/center/Article/Details/เด็ก…ก็เป็นเบาหวานได้นะ-รู้ยัง
https://www.siphhospital.com/th/news/article/share/900
https://www.bpksamutprakan.com/care_blog/view/105