7สัญญาณเตือน! เสี่ยงโรคเบาหวาน

เช็กลิสต์ 7 อาการนี้ใช่อาการของโรคเบาหวานหรือไม่ ?

1. ปัสสาวะบ่อย คอแห้ง หิวน้ำบ่อย
เนื่องจากร่างกายไม่สามารถเปลี่ยนน้ำตาลเป็นพลังงานได้ น้ำตาลส่วนเกินที่หลงเหลือในเลือดและสูงกว่าเกณฑ์ ทำให้ไตไม่สามารถกรองน้ำตาลกลับเข้าสู่เลือดได้ ดังนั้นระบบในร่างกายจึงต้องกำจัดน้ำตาลส่วนนี้ออกมาในรูปแบบของการปัสสาวะ ยิ่งถ้าร่างกายมีภาวะน้ำตาลสูงเท่าไหร่ก็จะทำให้ปัสสาวะบ่อยขึ้น และเมื่อต้องปัสสาวะบ่อยๆ ร่างกายก็จะเสียน้ำออกไปเยอะ ทำให้รู้สึกคอแห้งและหิวน้ำบ่อยๆ ตามมาได้นั่นเอง
2. หิวบ่อย กินจุ
เมื่อร่างกายขาดอินซูลินที่เปลี่ยนน้ำตาลให้เป็นพลังงาน ร่างกายและเซลล์ภายในก็จะขาดพลังงานดังกล่าวในการเดินระบบทำงานต่างๆ ทำให้ต้องไปดึงพลังงานจากส่วนอื่นๆ มาใช้งานแทน รวมถึงสั่งให้กินอาหารมากขึ้นเพื่อเพิ่มพลังงานในส่วนที่ไม่เพียงพอ นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้เรารู้สึกหิว กินจุ และอยากกินอาหารเพิ่มมากขึ้น
3. น้ำหนักลดลง และ อ่อนเพลียไม่มีแรง
ตับอ่อนที่ไม่สามารถทำหน้าที่ผลิตอินซูลินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ระบบการทำงานของร่างกายปั่นป่วน หิวบ่อย กินไม่หยุด สวนทางกับน้ำหนักที่ลดลง แถมยังอ่อนเพลียไม่มีแรง นั่นก็เพราะเมื่อพลังงานในร่างกายไม่เพียงพอ ร่างกายจึงไปดึงเอาโปรตีนและไขมันออกมาใช้เป็นพลังงาน ทำให้ร่างกายสูญเสียมวลกล้ามเนื้อ ส่งผลให้เรารู้สึกเพลีย อ่อนแรงนั่นเอง
4. ปวดหัว เวียนหัว รู้สึกเบลอ
อาการปวดหัวอาจเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แต่การปวดหัวและเวียนหัวก็สามารถเป็นหนึ่งในอาการของโรคเบาหวานได้ ทั้งจากภาวะน้ำตาลในเลือดสูงที่ส่งผลต่อการไหลเวียนของเลือด และภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำที่ทำให้ร่างกายอ่อนเพลีย ปวดหัว เวียนหัว คล้ายจะเป็นลมได้เช่นกัน
5. ตาพร่ามัว
สำหรับคนที่เป็นโรคเบาหวานนั้นมักมีอาการสายตาพร่ามัว มองไม่ชัดได้ เนื่องจากระดับน้ำตาลที่สะสมในเลือดที่สูงเกินไปเข้าไปคั่งอยู่ในเลนส์ตาและหลอดเลือดในจอประสาทตา ทำให้เกิดการตีบหรือโป่งพองได้ ซึ่งอาการของเบาหวานแบบนี้มักเรียกว่าเป็นภาวะแทรกซ้อนของเบาหวาน หรือเบาหวานขึ้นตา หากปล่อยทิ้งไว้นานๆ อาจทำให้สูญเสียการมองเห็นได้ในที่สุด
6. ชาตามปลายนิ้วมือและนิ้วเท้า
หลายคนรู้สึกชาปลายนิ้วมือ นิ้วเท้าเป็นประจำ ให้สงสัยไว้ก่อนว่าสามารถเป็นหนึ่งในอาการของโรคเบาหวานได้เช่นกัน เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงจนไปทำลายเส้นประสาทส่วนปลายตามนิ้วมือนิ้วเท้า ทำให้ปลายมือปลายเท้า หรือบริเวณใกล้เคียงรู้สึกชาไปตลอดจนกระทั่งไม่เหลือความรู้สึก
7. เป็นแผลง่าย แล้วหายยาก
หากเริ่มสังเกตเห็นว่าตัวเองเป็นแผลแล้วหายช้าเหลือเกิน คุณอาจจะกำลังเข้าข่ายเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้ เพราะภาวะน้ำตาลในเลือดสูงที่ทำให้หลอดเลือดทำงานผิดปกติ ไหลเวียนได้ไม่ดี กระบวนการซ่อมแซมแผลก็ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ แผลจึงหายช้านั่นเอง

หากคุณเป็นคนหนึ่งที่รู้สึกว่าตัวเองเข้าข่ายเสี่ยงเป็นโรคเบาหวาน แต่ก็ยังไม่แน่ใจว่าใช่หรือไม่ เพื่อความมั่นใจและรู้เท่าทันโรคเบาหวานที่เป็นเหมือนภัยเงียบอันน่ากลัวต่อสุขภาพของเรา ควรเข้ารับการตรวจคัดกรองเพื่อค้นหาอาการตั้งแต่แรกเริ่ม เพื่อป้องกันและได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ “โรคเบาหวาน เป็นแล้วไม่หาย แต่คุมได้”

References

https://www.vimut.com/article/diabetes-symptoms
https://www.pobpad.com/7-สัญญานเตือน-เบาหวาน
https://www.sikarin.com/health/สังเกตตัวเองด่วน
https://www.pobpad.com/สังเกตอาการน้ำตาลสูง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *